Select Page

ในทุกๆ ปี หุบเขากะเหรี่ยงนั้นมีชีวิตชีวาด้วยเสียงร้องเพลงและการละเล่นของเด็กๆ ที่เดินดุ่มเข้าไปในป่า พวกผู้ใหญ่จะถือขวานและเลื่อยนำทางไปยังต้นไม้ใหญ่เพื่อโค่นมันลงมา พอกลุ่มที่เข้าไปในป่าแบกฟืนกลับมาที่หมู่บ้าน เหล่าผู้หญิงและเด็กเล็กๆ ก็จะรี่ออกมาจากกระท่อมของพวกเขา มีการเล่นดนตรีและการบูชายัญ ไก่ถูกเชือดและถอนขน เนื้อของมันถูกแจกจ่ายไปทั่วหมู่บ้านเพื่อแสดงความเป็นมงคล ความเป็นชุมชน และประเพณี

แต่การเฉลิมฉลองนั้นเป็นมากกว่าปฏิบัติการทางวัฒนธรรม เพราะมันคือการต่อต้านและการปฏิวัติ นี่คือชาวกะเหรี่ยง ผู้คนของผม เรามีชีวิตผ่านช่วงเวลา 50 ปีแห่งการอดทนอดกลั้น 50 ปีแห่งสงคราม 50 ปีแห่งการถูกขับไล่ สำหรับเราแล้ว วัฒนธรรมของและอัตลักษณ์ของพวกเราคือสิ่งที่จะไม่ยอมปล่อยมันให้สูญหายไป ด้วยวังวนของสงครามที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้หายไปตลอดกาล

เมื่อกว่าร้อยปีที่แล้วเราต่อต้านขัดขืนพลังของเหล่านักล่าอาณานิคมอังกฤษ และทุกวันนี้เรายังคงใช้ชีวิตอยู่ในภาวะของการต่อต้านขัดขืน เนื่องจากเรามีจำนวนประชากรราว 500,000 คน จึงทำให้มักถูกมองข้ามไปในสงครามกลางเมืองพม่า ในขณะที่เรามีกันอยู่ไม่มากนัก แต่เราก็ยังคงไว้ซึ่งพละกำลังและความเข้มแข็ง นับตั้งแต่กองกำลังทหารกบฏ ไปจนถึงเหล่าเด็กกำพร้าในค่ายผู้ลี้ภัย มีอัตลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวที่เราล้วนมีร่วมกัน อัตลักษณ์ที่คนภายนอกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจมันได้

ไม่ใช่เพียงเหล่าทหารที่จับปืนต่อสู้กับพวกจักรวรรดินิยม แต่รวมไปถึงเหล่าชาวนา ครู และผู้ลี้ภัย ผู้ต่อต้านทุกคนล้วนโอบกอดอัตลักษณ์ของพวกเขา จดจำอดีต และต้องทนเจ็บปวดกับปัจจุบัน

ความรุนแรงและสันติสุขสามารถมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าระเบิดและกระสุนจะมิได้ย่ำกรายไปยังค่ายผู้ลี้ภัย แต่ใครจะพูดได้บ้างล่ะว่าผู้คนในนั้นอาศัยอยู่อย่างสงบสุข? เพราะที่นั้นล้วนประกอบไปด้วยความรุนแรง ความรุนแรงจากการต้องแยกจากครอบครัว ความรุนแรงที่ต้องหลับไหลทั้งที่ท้องยังหิว ความรุนแรงของบาดแผลในใจ และความเศร้าโศกที่ซึมลึก

ผู้คนในค่ายผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนไทยนั้นมีเวลามากมายที่จะนั่งใคร่ครวญตรึกตรองเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับอนุญาติให้ทำงาน ดังนั้นพวกเขาเลยได้แต่นั่งคิดและพยายามหาคำอธิบายสำหรับความเจ็บปวดที่พวกเราต้องเผชิญ พวกเขาพึ่งพาของมึนเมาเพื่อที่จะหนีออกไปจากความจริง เราหลายๆ คนจึงมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ เพราะมันทำให้คุณแทบจะเป็นบ้า มันทำให้คุณป่วยไข้

รัฐบาลไทยคงไม่อยากให้เราอยู่ที่นั่นหรอก การดำรงอยู่ของเราคือความขัดข้องใจของพวกเขา มีหลายคนที่คลอดในค่ายเมื่อ 40 ปีก่อน แล้วไม่เคยออกไปนอกค่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไร้ซึ่งอิสรภาพ ไร้ซึ่งทางเลือก ราวกับว่าตรงนั้นคือคุกที่เปิดโล่ง อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร และพวกเขาก็เป็นนักโทษนับตั้งแต่ที่ลืมตามาดูโลกใบนี้

เราถูกปฏิเสธจากชีวิตที่มีศักดิ์ศรี เราแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เพื่อรักษาไว้ซึ่งพวกเรา เพื่อที่จะได้ทำงาน เป็นคนที่ไม่ไร้ประโยชน์ เพื่อที่จะอุทิศบางสิ่งบางอย่างให้กับโลก แต่ไม่เลย เราถูกมองเป็นภาระ

เรามีทางเลือกหรือเปล่า?

อย่างไรก็ตาม เหล่าเด็กๆ ยังคงร้องเพลงดังก้องป่า ดนตรียังคงถูกบรรเลง ผู้คนยิ้มแย้ม หัวเราะ และเต้นรำไปด้วยกัน นี่คือสิ่งที่เราชาวกะเหรี่ยงเป็น เราเป็นพวกปลงตก เป็นคนสนุกสนาน ง่ายๆ สบายๆ และไม่สนใจเรื่องห่าเหวใดๆ ถ้ามีเรื่องอะไรผิดพลาดเราก็แค่หัวเราะแล้วปล่อยมันผ่านไป เราต้องทำเช่นนั้นก็เพราะว่าเรื่องเล็กน้อยนั้นไร้ซึ่งความหมายสำหรับเรา ถ้าคุณสูญเสียมหาศาล คุณก็ต้องเห็นคุณค่าในสิ่งที่ไม่สามารถถูกพรากไป นั่นคือการเต้นรำรอบต้นไม้กับเหล่าผองเพื่อน ครอบครัว และผู้คนของคุณเอง